Blog

Categories : Lifestyle | Beauty | Medical | Fitness

สารอันตรายที่มักพบในเครื่องสำอาง
สารอันตรายที่มักพบในเครื่องสำอาง

ปัจจุบันเครื่องสำอางที่มีวางขายตามท้องตลาดนั้นมีให้ได้เลือกซื้อกันมากมายเต็มไปหมด มีทั้งเครื่องสำอางที่มีคุณภาพดี และเครื่องสำอางที่เป็นอันตรายต่อตัวผู้ใช้ด้วย การรู้ถึงเรื่องของสารอันตรายต่าง ๆ ที่มักพบเจอในเครื่องสำอางจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และควรที่จะศึกษากันเอาไว้ ในบทความนี้จึงได้นำเอาสารอันตรายที่พบได้บ่อยในเครื่องสำอางมาให้ได้ทราบกัน เพื่อให้สามารถหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมอันตรายได้ เครื่องสำอาง กับ สารอันตรายที่พบได้บ่อย ๆ  สารปรอท ปรอท เป็นสารที่เรียกได้ว่าก่อให้เกิดอาการแพ้แบบรุนแรงได้เลย อีกทั้งยังมีอันตรายถึงเรื่องของกระเพาะปัสสาวะอักเสบด้วย หากว่ามีการใช้เครื่องสำอางก็ควรที่จะระวังสารชนิดนี้เอาไว้ให้ดี เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วก็ไม่คุ้มเลยกับสิ่งที่ต้องเสียไป ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสารนี้มักจะพบในเครื่องสำอางที่ช่วยลดสิว ลดฝ้า ลดกระ สารตะกั่ว  สารตะกั่ว เป็นอีกหนึ่งสารอันตรายที่ต้องห้าม เพราะเมื่อมีการซึมเข้าสู่ผิวแล้วจะทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงได้ และอาจจะมีอาการอื่น ๆ ตามมาด้วย ทั้งการถ่ายเป็นเลือด มีร่างกายที่อ่อนแอ เนื่องจากเม็ดเลือดแดงนั้นถูกทำลายไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งสารนี้จะพบมาในเครื่องสำอางประเภท ลิปสติก สารเฮกซ่าคลอโรฟีน  สารเฮกซ่าคลอโรฟีน เป็นสารอันตรายที่มีผลกระทบต่อระบบประสาทของผู้ใช้ อีกทั้งยังเป็นสารที่ทำให้เกิดแผลอักเสบในบริเวณผิวหนังได้ ซึ่งส่วนมากมักจะพบได้ในเครื่องสำอางในประเภท สบู่ และแป้ง สารไฮโดรควิโนน  สารไฮโดรควิโนน เป็นสารอีกประเภทหนึ่งที่พบได้บ่อยมาก ๆ ในเครื่องสำอาง โดยสารตัวนี้มักจะทำให้เกิดอาการแพ้ ผิวหนังลอก และมีสีผิวที่ผิดปกติไป ซึ่งจะพบมาในเครื่องสำอางที่ใช้ในการรักษาฝ้า หรือลอกฝ้า สารโซเดียมลอรัลซัลเฟต  สารโซเดียมลอรัลซัลเฟต เป็นสารอันตรายที่จะทำให้ผิวของผู้ที่ได้รับสารเข้าไปนั้นบางลง เมื่อมีผิวที่บางลง…

กฏหมายเกี่ยวกับรถ Food Truck ที่ควรรู้
กฏหมายเกี่ยวกับรถ Food Truck ที่ควรรู้

นอกจากจะสร้างรายได้ที่ดีและการจัดการดูแลเรื่องสุขอนามัยที่เหมาะสมแล้วนั้น เรื่องของ “กฎเกณฑ์ กฎหมาย” ต่างๆ นั้น…ผู้ดำเนินธุรกิจก็ต้องพึ่งรู้กันเอาไว้ด้วยครับ วันนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “กฏหมายเกี่ยวกับรถ Food Truck ที่ควรรู้” เพื่อเป็นข้อมูลที่ดีให้กับทุกๆ ท่านกันครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปชมกันดีกว่าครับ

4 ประเภทอาหารที่นิยมนำขายบน Food Truck
4 ประเภทอาหารที่นิยมนำขายบน Food Truck

 “รถขายอาหาร” กำลังเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมากและน่าสนใจ ต้องขอสวัสดีท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกๆ ท่านที่เข้ามาพบกับบทความนี้กันนะครับ ในวันนี้เราจะขอเป็นตัวแทนของทุกๆ ท่านไปทำความรู้จักและหาความรู้เกี่ยวกับ “4 ประเภทอาหารที่นิยมนำขายบน Food Truck” กันครับ แล้วธุรกิจนี้เค้าทำกันแบบไหน เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าครับ

4 รถที่นิยมนำมาทำ Food Truck
4 รถที่นิยมนำมาทำ Food Truck

ว่ากันด้วยเรื่องของธุรกิจอาหารในปัจจุบันนั้นมีการแข่งขันกันมากมายหลายๆ แบบ แถมยังเป็นยุคที่มีเ Delivery ถึงหน้าประตูห้องอีกด้วย ปัจจุบันจึงแทบไม่ต้องมีหน้าร้านก็ได้ แต่จะเหมาะกับการขายอาหารตามงานเทศกาลสำคัญที่สถานที่ประจำคงจะต้องลองมาทำ “Food Truck” กันบ้างแล้วหล่ะครับ วันนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปสำรวจเกี่ยวกับ “4 รถที่นิยมนำมาทำ Food Truck” กันครับ จะมีรุ่นใดบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยย!!!

Food Truck ที่ดีต้องเป็นอย่างไร
Food Truck ที่ดีต้องเป็นอย่างไร

จะดีกว่ามั้ยถ้าเราสามารถดำเนินธรุกิจการขายอาหารไปได้ทุกทีและทุกเทศกาล โดยที่ไม่ต้องสร้างแฟนชายล์ขนาดใหญ่ หรือมีสาขามากมาย  เพียงเรายกร้านอาหารขนาดย่อมเยาว์ของเราขึ้นมาก็คิดว่าน่าจะแจ๋วน่าดูเลยใช่มั้ยครับ วันนี้เราเลยอยากจะพาทุกๆ ท่านไปพบกับแนวทาง “Food Truck ที่ดีต้องเป็นอย่างไร” ให้กับทุกๆ ท่านไปอ่านกันครับ

ข้อได้เปรียบของรถขายอาหาร
ข้อได้เปรียบของรถขายอาหาร

ประเทศไทยนั้น ขึ้นชื่อในเรื่องของวัฒนธรรมและอาหารกินเป็นอย่างมาก จะเดินทางไปที่ไหนก็มีร้านอาหาร ร้านกาแฟหรือแม้กระทั้ง “รถขายอาหาร” แสนอร่อยมากมายคอยตามไปเปิดให้บริการหลายๆ ที่อยู่บ่อยๆ วันนี้เราเลยอยากจะมาแชร์และร่วมกันหาความรู้เกี่ยวกับ “ข้อได้เปรียบของรถขายอาหาร” ที่หลายๆ ท่านอาจคิดไม่ถึงกันดูสักหน่อยครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับ

Kaizen มีประโยชน์ในการทำงานมากกว่าที่คุณคิด
Kaizen มีประโยชน์ในการทำงานมากกว่าที่คุณคิด

เคยคิดสงสัยกันบ้างมั้ยครับว่า…ปัญหารอบๆ ตัวของเรานั้น ไม่ว่าจะเป็นจากการใช้ชีวิตประจำวันก็ดีหรือจะเป็นช่วงกำลังทำงานก็ล้วนแล้วแต่เกิดปัญหาให้เราได้ขบคิดหาทางแก้ไขได้ทั้งสิ้น และสิ่งที่มักจะเกิดจากความคิดง่ายๆ แก้ไขด้วยวิธีง่ายๆ อย่างมีหลักการนั้น…สามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ เกินคาดเลยหล่ะครับ วันนี้เราจึงอยากพาท่านผู้อ่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “KAIZEN” และไปดูกันสิครับว่า “Kaizen มีประโยชน์ในการทำงานมากกว่าที่คุณคิด” อย่างไรกันบ้างครับ แล้วท่านจะตกใจว่า ทำเพียงเล็กน้อยก็สามารถแก้ไขปัญหาใหญ่ๆ ได้เช่นกันครับ KAIZEN คืออะไร? Kaizen เป็นแนวคิดที่นำมาใช้ในการบริหารการจัดการการอย่างมีประสิทธิผล โดยมุ่งเน้นที่การมีส่วนร่วมของพนักงานทุกคน ร่วมกันแสวงหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงวิธีการทำงานและสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ดีขึ้นอยู่เสมอ หัวใจสำคัญอยู่ที่ต้องมี การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด (Continuous Improvement) ทำไมต้องทำ Kaizen ความสำคัญในกระบวนการของ Kaizen คือ การใช้ความรู้ความสามารถของพนักงานมาคิดปรับปรุงงาน โดยใช้การลงทุนเพียงเล็กน้อย ซึ่งก่อให้เกิดการปรับปรุงทีละเล็กทีละน้อยที่ค่อยๆ เพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตรงข้ามกับแนวคิดของ Innovation หรือ นวัตกรรม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ที่ต้องใช้เทคโนโลยีซับซ้อนระดับสูง ด้วยเงินลงทุนจำนวนมหาศาล ดังนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจแบบใด เราก็สามารถใช้วิธีการ Kaizen เพื่อปรับปรุงได้ โดยหลักๆ แล้วจะใช้หลักการ PDCA เป็นเครื่องมือย่อยในการหาวิธีและวางแผนการแก้ไขเป็นหลักนั้นเองครับ หลักในการทำ Kaizen ที่ดีเป็นอย่างไร?…

ทำความรู้จักกับการทำ QCC
ทำความรู้จักกับการทำ QCC

แนวทางใน “การทำงาน” ในแต่ละองค์กรนั้น ต่างมีวิธีการสร้างความร่วมมือระหว่างพนักงงานที่แตกต่างกันออกไปตามสไตล์และวัฒนธรรมของที่เป็นรากฐานขององค์กรกันออกไป แต่ก็จะมีเครื่องมือและวิธีการทำงานที่จะสามารถช่วยให้องค์กรปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเพื่อก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกมากมายหลายวิธีเลยหล่ะครับ วันนี้ราเราจะพาทุกๆ ท่านไปทำความรู้จักกับ “QCC” กันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปดูกันดีกว่าครับ กิจกรรม QCC คืออะไร? QCC (Quality Control Cycle) คือ การพัฒนาการทำงาน หรือสร้างนวัตกรรมโดยอาศัย”กลุ่มควบคุมคุณภาพ” โดยการจัดตั้งกลุ่มย่อยระดมความคิดอย่างมีเหตุมีผล มีการใช้เครื่องมือและเทคนิคต่างๆ ในการแก้ไขปัญหา เพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนากระบวนการทำงาน เพื่อพัฒนาตนเอง หลักการของ QCC จะเน้นการแก้ไขปัญหาของกระบวนการทำงานโดยกลุ่มย่อย โดยวิธีการทำ QCC นั้นจะใช้หลักการที่จะให้เราเพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมงาน และภาวะผู้นำของผู้บังคับบัญชาโดยใช้หลักการของวัฏจักรเดมิ่ง (Deming Cycle) ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอนด้วยกันคือ 1. การวางแผน (Plan : P)2. การปฏิบัติ (Do : D)3. การตรวจสอบ (Check : C)4. การแก้ไขปรับปรุง (Action : A) โดยแบ่งเป็นขั้นตอนง่ายๆ…

ประโยชน์ของการใช้ spaghetti diagram พัฒนาการทำงานในองค์กร
ประโยชน์ของการใช้ spaghetti diagram พัฒนาการทำงานในองค์กร

หลายๆ ท่านที่อยู่ในวัยทำงานก็คงจะคุ้นชินกับหลักการทำงานหรือเครื่องมือที่จะช่วยจัดสรรความคิดในการทำสิ่งๆ ต่างทั้งแก้ไขและช่วยพัฒนาองค์กร โดยยึดหลักในการลดข้อเสีย (waste) ซึ่งเป็นต้นทุนเสียให้ได้มากที่สุด ซึ่งวันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านไปพบกับหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยใช้ “spaghetti diagram” กันดูครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปอ่านพร้อมๆ กันเล้ยย!!! ทำความรู้จักกับ “7 Waste” 7 Waste คือ ความสูญเสีย 7 ประการ ที่เราจะต้องกำจัด ซึ่งจะแบ่งเป็นข้อๆ ได้ดังนี้ 1.ความสูญเสียเนื่องจากการผลิตมากเกินไป (Overproduction) การผลิตสินค้าปริมาณมากเกินความต้องการการใช้งานในขณะนั้น หรือผลิตไว้ล่วงหน้า เป็นเวลานาน มาจากแนวความคิดเดิมที่ว่าแต่ละขั้นตอนจะต้องผลิตงานออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้เกิดต้นทุนต่อหน่วยต่ำสุดในแต่ละครั้งโดยไม่ได้คำนึงถึงว่าจะทำให้มีงานระหว่างทำ (Work in process, WIP) ในกระบวนการเป็นจำนวนมากและทำให้กระบวนการผลิตขาดความยืดหยุ่น 2.ความสูญเสียเนื่องจากการเก็บวัสดุคงคลัง (Inventory) การซื้อวัสดุคราวละมากๆ เพื่อเป็นประกันว่าจะมีวัสดุสำหรับผลิตตลอดเวลา หรือเพื่อให้ได้ส่วนลดจากการสั่งซื้อ จะส่งผลให้วัสดุที่อยู่ในคลังมีปริมาณมากเกินความต้องการใช้งานอยู่เสมอ เป็นภาระในการดูแลและการจัดการนั้นเองครับ 3. ความสูญเสียเนื่องจากการขนส่ง (Transportation) การขนส่งเป็นกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มแก่วัสดุ ดังนั้นจึงต้องควบคุมและลดระยะทางในการขนส่งลงให้เหลือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น 4.ความสูญเสียเนื่องจากการเคลื่อนไหว (Motion) ท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น ต้องเอื้อมหยิบของที่อยู่ไกล ก้มตัวยกของหนักที่วางอยู่บนพื้น…

พัฒนาองค์กรด้วยระบบ 5ส
พัฒนาองค์กรด้วยระบบ 5ส

ปัจจุบันมีการนำหลักการและหลักปฏิบัติต่างๆ มากมายเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาองค์กรและพนักงานต่างๆ เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าและยั่งยืน ซึ่งวันนี้เราจะขอแนะนำให้ทุกๆ ท่านไปรู้จักกับการ “พัฒนาองค์กรด้วยระบบ 5ส” ที่น่าสนใจและสามารถทำได้จริงกันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับผม ความหมายของ 5 ส 5 ส. หรือ 5S คือเครื่องมือสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย ประกอบไปด้วย สะสาง-สะดวก-สะอาด-สุขลักษณะ-สร้างนิสัย มีวัตถุประสงค์หลัก ๆ เพื่อลดต้นทุน (Cost) และการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน (Efficiency) โดยมากนิยมใช้ในวงการอุตสาหกรรม ก่อนขยับขยายมาใช้ในทุกประเภทธุรกิจ เพราะเป็นแนวทางที่เป็นระบบ เหมาะสำหรับการนำมาเพื่อปรับปรุงแก้ไขการทำงานและรักษาสิ่งแวดล้อมในสถานที่ทำงาน โดยแต่ละ ส มีความหมายแตกต่างกันไปดังนี้ ●ส – สะสาง (Seiri) เริ่มต้นแยกสิ่งที่ต้องการจัดระเบียบให้ชัดเจนระหว่าง “สิ่งจำเป็น” และ “สิ่งไม่จำเป็น” หรือแยกสิ่งต่าง ๆ ให้อยู่เป็นหมวดหมู่ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานหรือไม่ นับเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาและความตั้งใจเป็นอย่างมาก เพราะเราต้องกล้าตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าอะไรคือสิ่งที่มีประโยชน์ หรือสปาร์คจอยจริง ๆ ฉะนั้นความรู้สึกเสียดายจึงเป็นอุปสรรคใหญ่ของขั้นตอนนี้ ●ส – สะดวก (Seiton) คือ การนำสิ่งที่สะสางมาจัดวางอย่างเป็นระเบียบ โดยคำนึงถึงกระบวนการใช้งานและความปลอดภัย…